ตั้งแต่ปีงบประมาณใหม่เป็นต้นไป จะมีการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจใหม่ในตลาดค้าส่งโอบิฮิโระ (โอบิฮิโระ) แถบโทคาจิ หัวใจสำคัญคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตรตกมาตรฐาน โดยฤดูร้อนปีนี้จะมีการจำหน่ายไอศกรีมเจลาโตรสเมลอนที่ผลิตในฟุราโนะเป็นไพรเวทแบรนด์ด้วย หลังจากมีการผ่อนผันกฎระเบียบตามการแก้ไขกฎหมายตลาดค้าส่งเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ตลาดค้าส่งจึงตัดสินใจเปิดร้านขายปลาที่ห้างสรรพสินค้าฟูจิมารุซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอบิฮิโระตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป นี่เป็นกลยุทธ์เพื่อ “ธุรกิจเชิงรุก” ภายในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในตลาด

ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาใช้ในไพรเวทแบรนด์คือ “เมลอนเมโอโตะ” ที่ครอบครัวเกษตรกร 3 ครัวเรือนเก็บเกี่ยวได้ในแถบยามาเบะ เมืองฟุราโนะ เป็นพันธุ์คิงรูบี้ที่มีเนื้อหนาสีแดงหายาก จุดเด่นอยู่ที่รสหวานล้ำ มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 30 ปีแล้ว ได้รับฉายาว่า “เมลอนมายา” ทุกปีจะผลิตประมาณ 60 ตัน แต่เนื่องจากการเก็บเกี่ยวเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะพวกมันแตกง่าย จึงเตรียมแปรรูปสินค้าตกมาตรฐาน เช่น ลูกที่เล็กเกินไปและลูกที่มีรูปร่างประหลาด เป็นไอศกรีมเจลาโตที่ไม่มีวันหมดอายุ

ทางบริษัทร่วมมือกับร้านขนมหวานในโอบิฮิโระ เพื่อจำหน่าย “ไอศกรีมเจลาโตผลไม้ รสเมลอนเมโอโตะ” (90 มิลลิลิตร ราคาประมาณ 400 เยน) ตามซูเปอร์มาร์เก็ตแถบโทคาจิ ระยะเวลาเก็บเกี่ยวอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม มีแผนจะผลิตไอศกรีม 2 หมื่นถ้วยจากผลผลิตตกมาตรฐานที่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 1 ตัน

ไพรเวทแบรนด์กำไรได้สูง แล้วยังนำเสนอความพิถีพิถันกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ง่าย ทางบริษัทเคยมีผลงานการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เช่น ร่วมมือกับสมาคมผลผลิตโอบิฮิโระในการผลิต “ซาลาเปาของตลาดค้าส่ง มิโสะ” จากมิโสะคิเรมาเมะของบริษัทชิบุยะโจโซ (ฮมเบ็ตสึ) นี่เป็นครั้งแรกที่ทดลองแปรรูปผลผลิตตกมาตรฐานเป็นผลิตภัณฑ์ หลังจากนี้จะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่มีกับสหกรณ์การเกษตรและแหล่งผลิตในฮอกไกโดด้วย

อีกหนึ่งความท้าทายคือตลาดค้าอาหารทะเลที่อยู่ในความดูแลของฟูจิมารุ ทางบริษัทรับช่วงต่อพื้นที่ขายและพนักงานจากอีกธุรกิจ และเปิด “ร้านอิจิริน สาขาฟูจิมารุ” เป็นร้านของตัวเอง สำหรับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าส่งให้แก่ร้านค้าปลีกและร้านอาหารนั้น การสะสมโนว์ฮาวจากการค้าขายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจหลักต่อไป

การขยายกิจการในลักษณะนี้มีภูมิหลังมาจากสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในตลาดค้าส่ง “ธุรกรรมนอกตลาด” ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอาหารรายใหญ่ทำสัญญากับผู้ผลิตโดยตรงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ผู้คนจึงใช้บริการตลาดค้าส่งน้อยลงทุกปี ยอดผู้ใช้บริการของทางบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จากปีก่อน แต่ปีนี้เป็นปีแรกในรอบ 6 ปีที่ยอดผู้ใช้บริการไม่ลดลงจากปีก่อนหน้า จึงจำเป็นต้องบุกเบิกวิธีหารายได้แบบใหม่เพื่อความอยู่รอด

กรรมการผู้บริหาร ทาคาชิมะ มาซาฮิโระ กล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “อยากเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจกับผู้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดนใจผู้บริโภค”