คณะกรรมการที่ประกอบด้วยรัฐบาลท้องถิ่นของฮามานากะ ฮอกไกโดตะวันออก และหน่วยงานอื่นๆ ได้ตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ว่า “ไข่หอยเม่นที่เพาะเลี้ยงในฮามานากะ” และเริ่มส่งจำหน่ายไปทั่วประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป เพื่อประชาสัมพันธ์ไข่หอยเม่นบาฟุนอุนิของฮอกไกโดที่เพาะเลี้ยงด้วยสาหร่ายทะเลเพียงอย่างเดียวจนมีคุณภาพระดับสุดยอด โดยได้ผลิตสติ๊กเกอร์จากการ์ตูนแอนิเมชันยอดฮิตชื่อ “จอมโจรลูแปงที่ 3” ซึ่งเป็นผลงานของนักเขียนการ์ตูนชื่อคุณมังกี พันช์ (เสียชีวิตแล้ว) ที่เกิดในฮานากะ สำหรับให้บริษัทแปรรูปในท้องถิ่นใช้ติดบรรจุภัณฑ์ด้วย จะได้อาศัยความนิยมในตัว “ลูแปง” ที่หยั่งรากลึกแล้วเพื่อการประชาสัมพันธ์
เมื่อปี 1992 ชาวประมงสาหร่ายทะเลในสังกัดสหกรณ์การประมงชิริปปุในฮามานากะได้เริ่มเพาะเลี้ยงไข่หอยเม่นเป็นอาชีพเสริมและคิดค้นเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่น ต่อมาได้เผยแพร่ไปถึงสหกรณ์การประมงฮามานากะด้วย ในปี 1999 ชาวประมง 78 ครัวเรือนจากสหกรณ์การประมงทั้ง 2 แห่งจึงส่งไข่หอยเม่นจำหน่ายในปริมาณรวม 73 ตัน ราคาแถบชายฝั่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 5,000-6,000 เยน สูงกว่าไข่หอยเม่นตามธรรมชาติเกือบ 2 เท่า แต่มีข้อดีคือขนาดของทุกชิ้นใกล้เคียงกันและมีรสหวาน ทำให้มีความต้องการจากร้านซูชิหรูหราในเมืองหลวงเป็นหลัก
รัฐบาลท้องถิ่น สหกรณ์การประมง และบริษัทแปรรูป 4 แห่งได้ก่อตั้งคณะกรรมการส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแห่งฮามานากะขึ้นเมื่อปี 2019 สติ๊กเกอร์ที่ใช้ติดบรรจุภัณฑ์เป็นรูปวงกลมซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5 เซนติเมตร มีแค่ 2 แบบคือรูปวาดลูแปงกับชื่อยี่ห้อ ผลิตทั้งหมด 140,000 แผ่น โดยพุ่งเป้าจะเจาะตลาดด้วยยี่ห้อ “ไข่หอยเม่นที่เพาะเลี้ยงในฮามานากะ”
หัวหน้าสมาคมเพาะเลี้ยงไข่หอยเม่นแห่งสหกรณ์การประมงฮามานากะกล่าวด้วยความภูมิใจว่า “เป็นรสชาติที่พวกเรามั่นใจหลังจากเพาะเลี้ยงหอยเม่นด้วยสาหร่ายทะเลบนชายฝั่งอย่างเดียวมาเป็นเวลา 2-3 ปี” ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทแปรรูปเอ่ยเช่นกันว่า “อยากให้คนจำนวนมากได้ลิ้มลองไข่หอยเม่นที่มีคุณภาพระดับสุดยอด” ด้วยความคาดหวังว่าผู้คนจะบริโภคกันแพร่หลายมากขึ้น