ทะเลสาบคุชชาโระ (ตำบลเทชิคางะ แถบคุชิโระ) เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอาคัง-มะชู มันเข้าสู่จุดพลิกผันครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม โดยทั่วไปห้ามไม่ให้มีการนั่งเรือเร็วที่ใช้เป็นการส่วนตัว เช่น เรือยนต์หรือสกูตเตอร์น้ำ ในบริเวณทั้งหมดของทะเลสาบซึ่งมีเส้นรอบวง 57 กิโลเมตร หากล่องเรือในทะเลสาบโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ

“กว่าจะกำหนดกฎระเบียบได้ก็ใช้เวลานานทีเดียว” เทศมนตรีโทคุนางะ เท็ตสึโอะประจำตำบลเทชิคางะย้อนระลึกความทรงจำว่า เคยมีผู้ร้องเรียนเรื่องเสียงดัง เช่น เสียงจากสกูตเตอร์น้ำ ในบริเวณทะเลสาบคุชชาโระอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเคยเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตเพราะตกจากสกูตเตอร์น้ำ จึงมีการเริ่มออกมาตรการตั้งแต่ประมาณ 30 ปีก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เรือทอดสมออย่างไร้ระเบียบและกำหนดเป็นมารยาทสำหรับคนรักเรือ เช่น เรือยอชต์ ในท้องถิ่น

ต่อมาเมื่อปี 1987 ตำบลเทชิคางะและสำนักงานสิ่งแวดล้อมในสมัยนั้นได้ก่อตั้ง “คณะกรรมการเพื่อติดต่อประสานการใช้งานทะเลสาบคุชชาโระอย่างเหมาะสม” โดยมีการกำหนดกฎระเบียบเฉพาะและทำคู่มือความปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น “ห้ามใช้เครื่องยนต์ในเขตน้ำที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง 200 เมตรและบริเวณคาบสมุทรวาโกโตะ

คณะกรรมการได้เรียกร้องให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่คนรักเรือส่วนหนึ่งล่องเรือในเขตน้ำที่อยู่ภายใต้การควบคุม ทำให้เกิดเหตุเรือแคนูเกือบชนกับลูกค้าที่มาว่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเมื่อปี 2011 กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้เสนอให้ทางตำบลตั้งกฎเกี่ยวกับการขับเรือเร็วในทะเลสาบ แต่พวกผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบางส่วนต่อต้าน จึงไม่สามารถตกลงกันได้

หลังจากนั้นยังมีผู้ร้องเรียนเรื่องเสียงดังไม่หยุดหย่อน ทางตำบลจึงตัดสินใจว่า “เราจะหลงเหลือทะเลสาบคุชชาโระอันเงียบสงบให้แก่ชนรุ่นหลัง” แล้วขอให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมบัญญัติเป็นกฎหมาย จนกระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนก็ได้กำหนดนโยบายห้ามขับเรือ

มีเรือกว่า 600 ลำลงทะเบียนเพื่อใช้งานที่สวนแลกเปลี่ยนกีฬาทางน้ำซึ่งเป็นจุดออกตัวและกลับเข้าฝั่งสำหรับเรือเร็ว ทางตำบลได้รับคำถามว่า “ขอใช้งานต่อไม่ได้หรือ” แต่หัวหน้าซาซาบุจิ โคเฮแห่งสำนักงานควบคุมดูแลอุทยานแห่งชาติอาคัง-มะชู กระทรวงสิ่งแวดล้อม รับฟังความคิดเห็นของทางตำบลที่ว่า “ที่ผ่านมาไม่เคยมีการใช้ทะเลสาบอย่างเหมาะสม” และบอกเล่าเหตุผลในการตัดสินใจตั้งกฎระเบียบดังกล่าว

ทะเลสาบคุชชาโระมี “อ่างอบทราย” ที่เกิดจากน้ำพุร้อนอยู่ตรงชายหาด คาบสมุทรวาโกโตะที่หันเข้าหาทะเลสาบคือขุมสมบัติทางธรรมชาติ เช่น เป็นแหล่งขยายพันธุ์ของจั๊กจั่นมิงมิงในตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น บริเวณรอบๆ คาบสมุทรวาโกโตะในฤดูร้อนคับคั่งไปด้วยผู้คนที่มาเล่นน้ำกับครอบครัวและผู้คนที่เพลิดเพลินกับกระดานยืนพายซึ่งได้รับความนิยมในระยะนี้ เรือแคนูที่ล่องสบายๆ สู่แม่น้ำคุชิโระซึ่งมีต้นน้ำมาจากทะเลสาบก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

คุณสึจิดะ ยูยะ (อายุ 46 ปี) ไกด์กิจกรรมกลางแจ้งในตำบล กล่าวด้วยความคาดหวังว่า “อยากให้ ‘ความเงียบ’ กลายเป็นคุณค่าใหม่ของทะเลสาบคุชชาโระ และอยากให้ลองมาทำกิจกรรมซึ่งไม่อาจสัมผัสได้จากที่อื่น”

เขียนโดย โมริ อาซาโกะ ผู้จัดการสาขาเทชิคางะ The Hokkaido Shimbun Press