อาคารพาณิชย์ชื่อ “4 โจเมะ พลาซา” (มินามิ 1 นิชิ 4 อำเภอชูโอ) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแลนดมาร์กของแถบโอโดริในซัปโปโรมาครึ่งศตวรรษได้ปิดกิจการแล้ว เมื่อวันที่ 31 มกราคมอันเป็นวันทำการวันสุดท้าย แต่ละร้านมีลูกค้าหนาแน่นตลอดทั้งวัน พนักงานร้านกับลูกค้าสนทนากันด้วยความเสียดาย ส่วนบางคนก็เดินถ่ายรูป

หญิง (อายุ 48 ปี) ผู้อาศัยอยู่ในเมืองซัปโปโรกล่าวว่า “ที่นี่เป็นสัญลักษณ์แห่งวัยเยาว์ และเป็นสถานที่ในความทรงจำของพ่อแม่ลูกด้วย” โดยที่ผ่านมา “4 พลา” แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของร้านแฟชันสไตล์แกล ร้านเสื้อผ้ามือสอง และร้านเครื่องประดับ ดึงดูดให้คนหนุ่มสาวมาใช้บริการ หญิงผู้ให้สัมภาษณ์เคยมาเดินในร้านกับเพื่อนสมัยเรียนชั้นมัธยมปลาย แล้วระยะหลังนี้ลูกสาววัย 20 กว่า 2 คนก็มาซื้อถุงโชคดีกับเสื้อผ้าด้วย

เห็นหลายคนพูดคุยกับพนักงานร้านที่คุ้นเคยกัน นักศึกษาหญิง (อายุ 20 ปี) ที่เรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษา เป็นลูกค้าขาประจำตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมปลายซึ่งเป็นช่วงที่อาศัยอยู่ในเมืองโทมาโคะไม เธอบอกว่า “ที่นี่มีเสื้อผ้าให้เลือกมากมาย แถมราคาย่อมเยา แค่ได้มาก็สนุกแล้ว อยากขอบคุณพนักงานร้านแล้วค่อยกลับ”

บางคนเอ่ยแสดงความขอบคุณว่า “ที่นี่ช่วยกระตุ้นให้ย่านโอโดริคึกคัก” ชาย (อายุ 75 ปี) ผู้อาศัยในซัปโปโรเล่าว่าใช้บริการร้านกาแฟที่ชั้น B2 มาเป็นเวลานานแล้ว คราวนี้เลยซื้อนาฬิกาข้อมือที่ร้านนาฬิกาบนชั้นเดียวกันเป็นที่ระลึกการปิดตัว เขากล่าวด้วยความคาดหวังว่า “พูดถึงโอโดริก็ต้องนึกถึง 4 พลา พอจะไม่มีแล้วก็รู้สึกเหงา แต่จากนี้ก็ยังอยากให้แถวโอโดริเจริญรุ่งเรืองไม่แพ้ละแวกสถานีซัปโปโรต่อไป”

เหล่าเจ้าของร้านที่ “ตลาดเสรี” ชั้น 7 ก็เสียดายที่ต้องจากลาเช่นกัน ชั้นนั้นเป็นแหล่งรวมร้านสารพัดประเภทแน่นขนัด ไม่ว่าจะร้านเครื่องประดับ ร้านเสื้อผ้ามือสอง หรือร้านของใช้กระจุกกระจิก ประธานบริษัท (อายุ 39 ปี) ที่ทำร้านเครื่องประดับชื่อ “คิโชคาจิ” มา 2 รุ่นแล้วรวมระยะเวลา 32 ปีย้อนความหลังว่า “มีพ่อลูกคู่หนึ่ง คนพ่อเคยมาซื้อของขวัญให้แฟนสาวจากร้านเรา แล้วต่อมาลูกชายก็มาซื้อของขวัญให้แฟนสาวจากร้านเราบ้าง ที่นี่เป็นตลาดเสรีที่ผสมผสานความหลากหลาย จึงมีแฟนๆ มากมายที่ชื่นชอบมาเป็นเวลานาน”