ฤดูหนาวปีนี้ หิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ในฮอกไกโด ระบบการคมนาคมกลายเป็นอัมพาต เกิดภูเขาหิมะขนาดใหญ่มากมายตามถนนสายหลักและถนนในย่านที่อยู่อาศัย ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการใช้ชีวิตของชาวเมือง สังคมจึงกำลังให้ความสนใจ “การกำจัดหิมะแบบสมาร์ท” โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือเซ็นเซอร์สมรรถภาพสูง เพื่อแก้ไขสถานการณ์เหล่านั้น

ปลายเดือนมกราคม รถกวาดหิมะตรงวงเวียนลองวิ่งตามเส้นทางทดลองในเมืองยูบาริ รถกวาดหิมะพุ่งชนภูเขาหิมะแตกอย่างไม่ลังเล โดยที่คนขับไม่ได้แตะต้องพวงมาลัยและคันเร่ง มันประสบความสำเร็จใน “การกำจัดหิมะอัตโนมัติ” โดยส่วนใหญ่ไม่เบี่ยงออกจากเส้นสีขาวที่กำหนดไว้เป็นเส้นทาง บริษัท NEXCO อีสต์ นิปปอน เอ็กเพรสเวย์ สาขาฮอกไกโด ผู้ให้บริการกวาดหิมะบนทางด่วน ได้พัฒนาระบบกำจัดหิมะอัตโนมัติที่เรียกว่า “อัสนอส” มาตลอด เพื่อประหยัดแรงงานคน โดยใช้ประโยชน์จากดาวเทียมควอซีเซนิธชื่อ “มิจิบิกิ” ที่มีความผิดพลาดน้อยกว่าระบบกำหนดตำแหน่งบนโลกด้วยดาวเทียม (GPS) และข้อมูลแผนที่สามมิติความแม่นยำสูงที่มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางภูมิศาสตร์และราวลูกฟูก เพื่อให้สามารถกำจัดหิมะด้วยความแม่นยำระดับที่อาจเกิดผิดพลาดเพียงไม่กี่เซนติเมตร

การพัฒนามีภูมิหลังมาจากปัญหาสังคมสูงอายุและการขาดแคลนเจ้าหน้าที่กำจัดหิมะ ทางเมืองซัปโปโรคาดการณ์ว่าเจ้าหน้าที่กำจัดหิมะจะมีจำนวนลดลงประมาณร้อยละ 40 ภายในปี 2037

แอปพลิเคชันจับคู่การกำจัดหิมะชื่อ “สโนว์ เบลล์” ที่พัฒนาโดยบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ “เบย์ เชอร์วูด” ในเมืองโอตารุ เป็นบริการเชื่อมโยงผู้ไหว้วานและผู้ให้บริการกำจัดหิมะผ่านสมาร์ทโฟน มีการทดสอบการใช้งานอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเริ่มใช้งานจริงในฤดูหนาวครั้งหน้า เป็นแผนการที่อยากเชื่อมโยงผู้สูงอายุที่ประสบความยากลำบากในการกำจัดหิมะและพวกพนักงานบริษัทที่ไม่มีเวลากำจัดหิมะ กับนักเรียนนักศึกษาและคนหนุ่มสาวที่อยากหารายได้เข้าด้วยกัน คุณฮิกิจิ จิคาชิที่ใช้บริการระยะทดลองกล่าวว่า “การกวาดหิมะเป็นงานลำบากสำหรับผู้สูงอายุ แต่พอคนหนุ่มสาวมาทำก็เสร็จภายในพริบตา เป็นบริการที่สะดวกสำหรับพึ่งพาในวันหิมะตกหนัก”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอมารุ ทาคาโนริ แห่งมหาวิทยาลัยฮอกไกโด เป็นผู้วิจัยเกี่ยวกับวิทยาการหุ่นยนต์ เขากำลังค้นคว้าเพื่อใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่มีหิมะสุม เพื่อช่วยสนับสนุนและใช้ระบบอัตโนมัติกับการกำจัดหิมะได้ ในรถติดตั้งเซ็นเซอร์รับข้อมูลระยะทางแบบสามมิติกับกล้องจับความร้อน และยังมีการทดลองการรักษาความปลอดภัยและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการค้นหาจุดกำจัดหิมะและตรวจจับคนเดินเท้ากับสิ่งกีดขวาง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอมารุกล่าวว่า “การลดลงของจำนวนประชากรและสังคมสูงอายุทำให้คาดว่าแรงงานในการกำจัดหิมะจะขาดแคลน จำเป็นต้องเปลี่ยนจากวิธีกำจัดหิมะแบบดั้งเดิมมาเป็นการกำจัดหิมะอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ ICT ยังมีปัญหาอีกเป็นภูเขาเลากา เช่น การบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเอาไว้ก่อน”