《ทางเลือกเมื่อย้ายมาอยู่ฮอกไกโด รายงานจากนิเซโกะ》
รายงานข่าวจากตำบลนิเซโกะภายใต้การปกครองของชิริเบชิที่มีผู้คนย้ายถิ่นมาอยู่อาศัยกันมากมาย เพื่อแนะนำเรื่องราวเกี่ยวกับ “ทางเลือก” ของผู้คนที่ตัดสินใจจะย้ายถิ่นฐาน
Special feature
《ทางเลือกเมื่อย้ายมาอยู่ฮอกไกโด รายงานจากนิเซโกะ》 ②คุณคาโต เรียวสุเกะ หลังจากเปลี่ยนอาชีพแล้วล้มเหลว สามีภรรยาจึงเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม คุณคาโต เรียวสุเกะ (อายุ 38 ปี) ใช้เครื่องตัดหญ้าอยู่ในแถบนิเซโกะที่หิมะยังไม่ตก เขาช่วยงานเกษตรกรในท้องถิ่นเพราะมุ่งหมายจะทำเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกมะเขือเทศ มันฝรั่ง หัวพันธุ์ลิลลี่ หรือการทำฟาร์มโคนม…สำหรับวันนี้ เขามาช่วยปรับผิวดินในไร่องุ่นของนิเซโกะไวเนอรี่

เมื่อประมาณ 1 ปีครึ่งที่แล้ว เขาย้ายจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำงานมา 11 ปีไปทำงานที่บริษัทขนาดกลางซึ่งให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการด้วยความคิดที่ว่า “เราทำงานนี้ได้” ทว่าความมั่นใจกลับกลายเป็นหลุมพราง งานใหม่แตกต่างกับงานเก่าโดยสิ้นเชิง เขาพยายามดิ้นรน แต่ระหว่างที่ฝืนตัวเองไปเรื่อยๆ สภาพจิตใจก็ย่ำแย่ ครึ่งปีหลังจากนั้น ขนาดจะลุกจากเตียงเพื่อออกไปทำงานที่บริษัทยังลุกไม่ขึ้น หมอวินิจฉัยว่า “เขาปรับตัวเข้ากับที่ทำงานใหม่ไม่ได้” อีก 2 เดือนต่อมาเขาลาออกจากงาน ตอนนั้นลูกชายที่ชื่อจิฮิโระคุงเพิ่งอายุได้ 3 ขวบ เหตุการณ์นี้ถือเป็นบททดสอบสำหรับภรรยาที่ชื่อคุณเอริ (อายุ 37 ปี) ด้วยเช่นกัน
คุณเรียวสุเกะเป็นคนตำบลชิราโออิ เรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโทโฮคุและเรียนต่อปริญญาโทด้านวิศวกรรมโลหการ เขาอยากทำงานระดับโลกในบริษัทที่ผลิตแบรนด์ยักษ์ใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศ โดยในปี 2008 เขาเข้าทำงานที่บริษัทจิโยดะ คอร์ปอเรชัน (เมืองโยโกฮามะ) ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่นในแวดวงโรงงาน ปีนั้นเขาย้ายไปประจำการที่ประเทศการ์ตาซึ่งมีโครงการก่อสร้างโรงงานก๊าซธรรมชาติเหลวขนาดมโหฬารเพื่อช่วยสนับสนุนผู้มีหน้าที่รับผิดชอบที่ไซต์งาน ทั้งยังเคยไปประจำการที่ประเทศมาเลเซียและเกาหลีด้วย เรียกว่ามีประสบการณ์ที่ไซต์งานในต่างประเทศหลายแห่ง
เมื่อราวๆ 5 ปีก่อน เขาได้รับเลือกจากในหมู่พนักงานหลายคนให้ดูแลรับผิดชอบระบบพัฒนาธุรกิจ ซึ่งคิดว่าเป็นงานที่เหมาะกับตัวเองมาก เขาวางแผนพัฒนาระบบอยู่ในสมอง ช่วงนี้เองที่บริษัทประสบภาวะวิกฤตทางการบริหารจัดการ จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิครั้งร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ถึง 1 แสนล้านเยน แล้วต่อมายังพุ่งสูงเกินกว่า 2 แสนล้านเยนอีกด้วย ตอนนั้นเขาอายุ 36 ปี หากจะย้ายงานก็ควรเป็นจังหวะนี้ ถ้าเป็นงานที่ปรึกษา ขอเพียงมีทักษะติดตัว เขาก็สามารถทำงานโดยอาศัยอยู่ใกล้พ่อแม่ที่บ้านเกิดได้ อยากเลี้ยงลูกชายให้เติบโตในฮอกไกโดที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ด้วย พอคำนึงถึงอนาคตข้างหน้า เขาเลยตัดสินใจย้ายงาน
ทว่าความมั่นใจก็ต้องมาพังทลาย เขาถูกรุ่นพี่ “ตำหนิ” ทุกวี่วัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2019 เขาได้รับอีเมลตำหนิอย่างรุนแรง “หลังจากโดนตุ๊ยท้อง ยังโดนหมัดอันหนักหน่วงซัดใส่ปิดท้าย” เขาไม่ไปบริษัทอีกเลย ย้ายออกจากแมนชั่นในใจกลางโยโกฮามะที่มีค่าเช่าเดือนละ 1.5 แสนเยน และมองหาอนาคตของตัวเองที่ซัปโปโรซึ่งพ่อแม่อาศัยอยู่
การทำเกษตกรรมก็มีเสน่ห์ดึงดูด แต่จะหาเลี้ยงครอบครัวได้หรือเปล่า ช่วงนั้นตำบลนิเซโกะกำลังเปิดรับสมัครบุคลากรที่จะมาทำการเกษตรใน “ทีมร่วมแรงร่วมใจกระตุ้นความคึกคักให้ท้องถิ่น” เขาสามารถเตรียมความพร้อมให้ตัวเองอย่างมั่นคงในช่วง 3 ปีแรกเพื่อทำการเกษตรต่อไปได้ คุณเอริก็เข้าร่วมทีมในฐานะผู้ช่วยในการดูแลเด็กเช่นกัน “จากนี้ไปสามีภรรยาต้องช่วยกันหารายได้กัน 2 คน”
มุมมองที่คุณเรียวสุเกะมีต่อเกษตรกรรมเปลี่ยนแปลงไป เขามีความคิดว่า “วิธีการวางกลยุทธ์เกี่ยวกับงานด้านนี้นั้นสุดยอดไปเลย” ในระหว่างนั้นเขาเกิดความประทับใจเป็นอันมากกับคุณฮมมะ ยาสุโนริผู้แปรรูปองุ่นเป็นไวน์และเพิ่มมูลค่าให้แก่พวกมัน คุณฮมมะก็ลาออกจากธนาคารมาอาศัยอยู่ละแวกนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนเหมือนกัน
วงศ์วานแห่งนิเซโกะจะสืบสานจากผู้ย้ายถิ่นฐานรุ่นก่อนสู่ผู้ย้ายถิ่นฐานรุ่นใหม่ต่อไป