สมาคมการท่องเที่ยวเกาะเรบุงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและจัดทัวร์ค้นหาความเป็นไปได้เกี่ยวกับเวิร์กเคชัน เพื่อนำเสนอการทำงานในสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ รวมถึงอาหาร ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ส่งผลให้การท่องเที่ยวอันเป็นอุตสาหกรรมหลักต้องประสบความยากลำบาก ทำให้เกิดความคิดว่าอยากดึงดูดลูกค้าในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวและนำเสนอการท่องเที่ยวสไตล์ใหม่เพื่อดึงคนหนุ่มสาวและนักท่องเที่ยวส่วนบุคคล

สมาคมการท่องเที่ยวเกาะเรบุงจัดทัวร์ขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน ปี 2021 ในฐานะโครงการสาธิตของกรมการท่องเที่ยว โดยเชิญนักธุรกิจผู้วางแผนเวิร์กเคชันในโตเกียวกับโคจิ และชายหญิงอายุช่วง 20-59 ปี รวม 7 คน ที่ทำงานให้องค์กรมาร่วมทัวร์

พวกเขาได้ลองย้ายต้นกล้าของพืชเฉพาะถิ่นบนเกาะที่เรียกว่า “เรบุงอัตสึโมริโซ” ลงดินที่สวนพฤกษศาสตร์โคซังทางตอนเหนือของเกาะ และทัศนาจรที่ตั้งแคมป์บนชายฝั่งทะเลสาบคุชุซึ่งได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นฐานทำงานทางไกลแห่งใหม่ ในกระท่อมมีโต๊ะกับตู้เย็น สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้สาย “Wi-Fi” ได้ด้วย ผู้ร่วมทัวร์ได้กางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่พกติดตัวมาด้วยเพื่อทำงานจริงๆ และถามข้อมูล เช่น ค่าใช้บริการ

มีการทุ่มเทความพยายามในการประชาสัมพันธ์มนตร์เสน่ห์ของท้องถิ่นด้วย กรรมการผู้จัดการยูดะ ฮิโรอากิแห่งสหกรณ์การประมงคาฟุกะได้มาบรรยายเพื่ออธิบายว่า สาหร่ายของคาฟุกะทำให้น้ำสต็อกไม่ขุ่น ธุรกิจแถบคันไซสั่งซื้อกันเข้ามามาก ซึ่งผู้ร่วมทัวร์ได้ลองแปรรูปสาหร่ายคอมบุด้วย นอกจากนี้ภัณฑารักษ์ยังได้แนะนำซากปรักหักพังโจมงบนเกาะ เมื่อถึงเวลามื้ออาหารก็ได้เอร็ดอร่อยกับรสชาติจากทะเล เช่น ปลาฮกเกะที่ผลิตในท้องถิ่น

คุณคาวามุระ ยาสึโร่จากศูนย์บริหารจัดการ JMA ผู้เสนอแผนเวิร์กเคชันให้บริษัทใหญ่ กล่าวว่า “การแลกเปลี่ยนกับผู้คนท้องถิ่น(เกี่ยวกับเวิร์กเคชัน)และเพิ่มพูนความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแต่ละท้องถิ่น จะช่วยให้เกิดคำบอกใบ้สำหรับธุรกิจใหม่ๆ”

คุณทาเครุ ผู้จัดการแผนกอุตสาหกรรมประจำตำบล สำนักงานผู้บริหารสมาคมการท่องเที่ยวเกาะเรบุง ชี้แจงว่า “ในขณะที่การท่องเที่ยวส่วนบุคคลของคนหนุ่มสาวกลายเป็นกระแสหลัก สิ่งสำคัญคือไม่ควรมองว่ากลุ่มลูกค้าหลักคือทัวร์เป็นหมู่คณะอย่างเดียว เราอยากค้นหารูปแบบของเวิร์กเคชันที่เหมาะกับเกาะเรบุงโดยจำกัดวงกลุ่มเป้าหมาย”