“กิงกะซุยโซ (ตู้ปลาทางช้างเผือก)” เป็นนิทรรศการถาวรที่มีปลาซาร์ดีน 1 หมื่นตัวแหวกว่ายกันเป็นฝูง ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ “โนโบริเบ็ตสึ มารีน พาร์ค นิกซ์ (Noboribetsu Marine Park Nixe)” เมืองโนโบริเบ็ตสึ โดยแสงสีของตู้ปลาจะปรับเปลี่ยนไปตามท่วงทำนองของเพลงที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งนำอุปกรณ์ให้แสงสว่างมาใช้ในนิทรรศการที่พุ่งเป้าจะให้คนมาถ่ายรูปกัน ผู้คนก็โพสต์รูปลงโซเชียลเน็ตเวิร์กกันไม่ขาดสาย ทำให้นิทรรศการนี้กลายเป็นตัวเอกของพิพิธภัณฑ์ ขณะนี้ทางพิพิธภัณฑ์กำลังคิดค้นการแสดงรูปแบบใหม่อย่างขะมักเขม้น เพราะ “มีลูกค้ามาเพื่อดูนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ พนักงานจึงท้าทายกับวิธีจัดแสดงแบบใหม่ๆ อย่างกระตือรือร้น”
นิกซ์ครบรอบ 30 ปีของการเปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคม ลูกค้าลดจำนวนลงเนื่องด้วยผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทางพิพิธภัณฑ์จึงเผยความขมขื่นในใจว่า “ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง” ทว่าตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา “พื้นที่อันเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันกับชนเผ่า (อุโปโปย หรือ Upopoy)” ซึ่งเป็นฐานสำหรับการฟื้นฟูวัฒนธรรมไอนุ ได้เปิดให้บริการในแถบชิราโออิโจซึ่งเป็นย่านข้างเคียง จึงเริ่มเห็นแสงแห่งความหวังว่าจะมีนักเรียนมาทัศนศึกษากันมากขึ้น
คุณสึงาวะ เอจิ อายุ 51 ปี เกิดที่เมืองซัปโปโร หลังจากทำงานเป็นผู้จัดการโรงแรมในเมืองยูบาริและกิจการอื่นๆ ก็ย้ายมาทำงานที่บริษัทฮอกไกโด มารีน พาร์คซึ่งบริหารจัดการนิกซ์ เขาพยายามทำการตลาดกับไต้หวันและจีนจนลูกค้าที่มาใช้บริการกลายเป็นชาวต่างชาติไปเสียครึ่ง “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไม่ใช่สาขาที่ผมถนัด แต่การทำให้ลูกค้ากลับบ้านพร้อมรอยยิ้มคือพื้นฐานร่วมกันของงานบริการ” เขาคิดเช่นนั้นและเริ่มจัดนิทรรศการปลาทองที่ได้รับความนิยมในแถบเอเชียตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา โดยมีไอเดียอันน่าทึ่งอย่างการวางตู้ปลาไว้ในห้องติดกระจกเงาเพื่อให้สามารถรับชมได้จากหลากหลายด้าน
เขาเล่าว่า “อยากครุ่นคิดถึงวิถีของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโดยมองไปอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้า” นอกจากนี้ยังจับตาดูวิธีการจัดแสดงแบบล้ำสมัยของต่างประเทศ “อยากลองจัดแสดงเพื่อการศึกษาด้วย เช่น ให้ผู้มาใช้บริการได้รู้ว่า โลมาในอ่าวฟุงกะกินเหยื่อแบบไหน”